วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

พระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์

เรื่องราวของ พระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ นั้นเป็นเรื่งที่สอดคล้องกับ พระพุทธศานา ที่ไห้ความรู้เเละความเขาใจ ในความเสียสระความอดทน ความานะ ผลเสียของการกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเรากระทำ โดยทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีเเบบอย่าง
เนื้อเรืองตัวอย่าง(ไม่จบอ่านต่อได้ที่ http://www.geocities.com/pravatesundorn/index.htm)
พระ เจ้าสัญชัย ทรงครองราชสมบัติเมืองสีวี มีพระมเหสีทรงพระนามว่า พระนางผุสดี ธิดาพระเจ้ากรุงมัททราช พระนางผุสดีนี้ในชาติก่อนๆ ได้เคยถวายแก่นจันทน์หอม เป็นพุทธบูชาและอธิษฐานขอให้ได้เป็นพุทธมารดาพระพุทธเจ้าในกาลอนาคต ครั้นเมื่อนางสิ้นชีวิตก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก เมื่อถึงวาระที่จะต้องจุติมาเกิดในโลกมนุษย์ พระอินทร์ได้ประทานพรสิบประการแก่นาง ครั้นเมื่อพระนางผุสดีทรงครรภ์ใกล้กำหนดประสูติ พระนางปรารถนาไปเที่ยวชมตลาด ร้านค้า บังเอิญในขณะเสด็จประพาสนั้น พระนางทรงเจ็บครรภ์และประสูติพระโอรสในบริเวณย่านนั้น พระโอรสจึงทรงพระนามว่า เวสสันดร หมายถึง ในท่ามกลางระหว่างย่านค้าขาย พร้อมกับที่พระโอรสประสูติ ช้างต้นของ พระเจ้าสัญชัยก็ตกลูกเป็นช้างเผือกเพศผู้ได้รับชื่อว่า ปัจจัยนาค เป็นช้างต้นคู่บุญพระเวสสันดร
เมื่อพระกุมารเวสสันดรทรงเจริญวัยขึ้น ทรงมีพระทัยฝักใฝ่ในการบริจาคทาน มักขอพระราชทานทรัพย์จากพระบิดามารดา เพื่อบริจาคแก่ประชาชนอยู่เป็นนิตย์ ทรงขอให้พระบิดาตั้งโรงทานสี่มุมเมือง เพื่อบริจาคข้าวปลาอาหารและสิ่งของจำเป็น แก่ประชาชน และหากมีผู้มาทูลขอสิ่งหนึ่ง สิ่งใด พระองค์ก็จะทรงบริจาคให้โดยมิได้เสียดาย ด้วยทรงเห็นว่า การบริจาคนั้นเป็นกุศลเป็นคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ ทั้งแก่ผู้รับและผู้ให้ ผู้รับก็จะพ้นความเดือดร้อน ผู้ให้ก็จะอิ่มเอิบเป็นสุขใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น และยังทำให้พ้นจากความโลภความตระหนี่ถี่เหนียวในทรัพย์สมบัติของตนอีกด้วย พระเกียรติคุณของพระเวสสันดรเลื่องลือไปทั่วทุกทิศว่าทรงมีจิตเมตตาแก่ผู้ อื่นมิได้ ทรงเห็นแก่ความสุขสบายหรือเห็นแก่ทรัพย์สมบัติส่วนพระองค์ มิได้ทรงหวงแหนสิ่งใด ไว้สำหรับพระองค์

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.geocities.com/pravatesundorn/index.htm

วันปีใหม่




วันปีใหม่.....
วันปีใหม่นี้ไม่ได้ไปไหนไกลเท่าไรเเต่ก็ไปไหว้พระบ้าง ก็หวังว่าเพื่อนๆหลายคน คงได้ไปเที่ยวที่อื่นๆบ้าง คงสนุกมาก วันปีใหม่ ที่บ้านมีพลุให้ดูเยอะมากเพราะเเถวบ้านมีหลายโรงเเรม จึงเห็นพลุหลายลูกมาก
รู้ไหมว่าพลุเนีย เกิดขึ้นเมื่อไร ปีใหม่นี้เลยขอเสนอ เรื่องพลุจ้าา ดอกไม้ไฟ หรือ พลุ เป็นอุปกรณ์ในหมวดหมู่วัตถุระเบิดชนิด หนึ่ง ลักษณะของพลุประกอบด้วย เสียง แสง ควัน และเถ้า พลุถูกออกแบบให้เผาไหม้และจุดระเบิดที่แสงสีต่างๆ พลุถูกใช้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก

เชื่อกันว่าชาวจีนเป็นผู้ค้นคิดพลุและดอกไม้ไฟก่อนชาติอื่นๆ (อันเป็นผลสืบเนื่องจากการประดิษฐ์คิดค้นดินปืนของชาติจีนนั่นเอง) เพื่อใช้ในงานรื่นเริง เช่น วันตรุษจีน หรือวันสาร์ทจีน และยังนิยมใช้สืบมาจนปัจจุบัน